Metro Bank PLC ถูก Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักรปรับเงิน 16,675,200 ปอนด์ เนื่องจากมาตรการตรวจสอบความเสี่ยงการฟอกเงินที่ไม่เพียงพอ
ตามประกาศที่ออกโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร ระหว่างเดือนมิถุนายน 2016 ถึงเดือนธันวาคม 2020 Metro Bank ล้มเหลวในการใช้ระบบที่ถูกต้องและวิธีการที่เหมาะสมเพื่อต่อต้านความเสี่ยงการฟอกเงิน ส่งผลให้ธุรกรรมมูลค่ากว่า 51,000 ล้านปอนด์ไม่อยู่ภายใต้ขั้นตอนการตรวจสอบอาชญากรรมทางการเงิน
ในเดือนมิถุนายน 2016 Metro Bank ได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อตรวจสอบธุรกรรมของลูกค้า แต่ระบบกลับไม่ทำงานตามที่คาดไว้ เนื่องจากข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูล ธุรกรรมที่ดำเนินการในวันที่เปิดบัญชีธนาคาร รวมถึงธุรกรรมใดๆ ที่ดำเนินการก่อนอัปเดตบันทึกบัญชีจึงไม่ได้รับการตรวจสอบ
ข้อผิดพลาดดังกล่าวส่งผลให้มีการทำธุรกรรม 60 ล้านรายการซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 51,000 ล้านปอนด์ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเนื่องจากเป็นอาชญากรรมทางการเงิน
แม้ว่าพนักงานธนาคารบางคนจะแสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการทำธุรกรรมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบในปี 2017 และ 2018 แต่ธนาคารก็เริ่มแก้ไขปัญหาดังกล่าวในปี 2019 จนกระทั่งปลายปี 2020 ธนาคารจึงได้นำระบบมาใช้เพื่อติดตามธุรกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ธนาคารเมโทรละเมิดหลักการที่ 3 ของหลักการสำหรับธุรกิจของ FCA และถูกปรับเงิน 23,821,700 ปอนด์ FCA ลดค่าปรับลง 30% โดยธนาคารตกลงที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เทเรส แชมเบอร์ส ผู้อำนวยการบริหารร่วมฝ่ายบังคับใช้กฎหมายและการกำกับดูแลตลาด เชื่อว่าช่องโหว่นี้เกิดขึ้นนานเกินไป และอาจทำให้ผู้กระทำความผิดใช้ระบบการเงินในทางที่ผิด